ความแตกตำงด๎านผลิตภัณฑ์ (Product Differentiation) เป็นการพิจารณาคุณลักษณะเดํนของตัวผลิตภัณฑ์ที่เหนือกวำคูํแขํงขัน ซึ่งสามารถพิจารณาได๎จากคุณลักษณะตำงๆ ได๎แกํ รูปแบบ คุณสมบัติ ความคงทน คุณสมบัติ ราคา ความนำเชื่อถือ และคุณภาพ
ความแตกตำงด๎านบริการ (Service Differentiation) เป็นการกาหนดตาแหนํงทางการตลาดให๎แกํผลิตภัณฑ์ โดยเน๎นไปที่การให๎บริการที่เหนือกวำคูํแขํงขัน ซึ่งสามารถพิจารณาได๎จากคุณลักษณะตำงๆ ได๎แกํ ความรวดเร็ว การรับประกัน การบริการติดตั้ง การบริการจัดสํงสินค๎า การฝึกอบรมหรือให๎คาปรึกษาแกํลูกค๎า และการบริการบารุงรักษาและซํอมแซม
ความแตกตำงด๎านบุคคล (Personnel Differentiation) เป็นการกาหนดตาแหนํงทางการตลาดโดยพิจารณาจากความสามารถของบุคลากรในองค์กร โดยทั่วไปนิยมใช๎กับผลิตภัณฑ์ประเภทบริการ ซึ่งสามารถพิจารณาได๎จากคุณลักษณะตำงๆ ได๎แกํ ความรู๎ความสามารถของบุคลากร ประสบการณ์และความชานาญ ความนำเชื่อถือ ความซื่อสัตย์สามารถไว๎วางใจได๎
ความแตกตำงด๎านภาพลักษณ์ (Image Differentiation) เป็นการกาหนดตาแหนํงทางการตลาด โดยนาเอาภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์หรือองค์กรมาเป็นเครื่องมือในการสร๎างความแตกตำงทางการแขํงขัน
ขั้นตอนในการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์
• ขั้นตอนการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ (Product positioning) มีดังนี้
• บริษัทจะต้องระบุรายการ
• จะต้องคัดเลือกคุณสมบัติที่ดีเด่น 2 ประการ จากข้อดีเด่นของสินค้าที่ได้เสนอ
ออกมาแล้ว ถ้าเลือกเพียงแกนเดียวสามารถเอาชนะคู่แข่งขันได้ก็ใช้เพียงแกน
เดียว แต่ถ้าไม่ชนะก็ต้องเลือกขึ้นมา 2 แกน เงื่อนไขในการเลือกมี 3 ประการ ดังนี้
– สิ่งที่เด่นชัดในตัวของสินค้า
– จุดเด่นที่เลือกมานั้นจะต้องได้เปรียบคู่แข่งขัน เ
– จุดเด่นและได้เปรียบที่ทางบริษัทเลือกมานั้นจะต้องเป็ นจุดที่มีความสำคัญใน
สายตาของผู้บริโภค